Astaxanthin หรือ แอสต้าแซนทีน คือ สารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ แต่สามารถพบได้ตามธรรมชาติ ปัจจุบัน Astaxanthin คือ หนึ่งในสารที่ได้รับความนิยมในการนำมาทำเป็นอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ เนื่องจาก แอสต้าแซนทีน สรรพคุณที่โดดเด่นด้วยการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังกว่าวิตามินซีถึง 6,000 เท่า[1] อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่หลากหลาย จึงทำให้สารต้านอนุมูลอิสระชนิดนี้ถูกนำมาศึกษาอย่างแพร่หลาย จนเป็นที่รู้จักว่า Astaxanthin คืออะไร และ Astaxanthin ประโยชน์มีอะไรบ้าง[2]

| ชื่อสามัญ | Astaxanthin |
| ลักษณะ | สีแดงอมส้ม |
| แหล่งที่มา | สาหร่าย Haematococcus Pluvialis |
| ประโยชน์ | ต้านอนุมูลอิสระ ดูแลผิวพรรณ บำรุงหัวใจและหลอดเลือด ปกป้องดวงตา ดูแลระบบประสาทและสมอง |
| ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ | Nectapharma Luminari Astaxanthin |
TLDR
Astaxanthin คือ สารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังกว่าวิตามินซีถึง 6,000 เท่า
Astaxanthin จาก Astareal ถูกเพาะเลี้ยงด้วยระบบปิด ทำให้ได้สารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ มีความปลอดภัย และปราศจากการปนเปื้อน
Astareal เป็นแอสตาแซนธินที่มีงานวิจัยรองรับมากที่สุดถึงกว่า 70 ฉบับ ทั้งในเรื่องของการดูแลผิวพรรณ บำรุงหัวใจและหลอดเลือด ปกป้องดวงตา ดูแลระบบประสาทและสมอง
ควรรับประทาน Astaxanthin พร้อมมื้ออาหารหรือหลังจากทานอาหารเช้าทันที เพื่อให้แอสต้าแซนทีนดูดซึมเข้าร่างกายได้ดียิ่งขึ้น
แหล่งที่พบ แอสตาแซนธิน คือที่ไหน
โดยปกติแล้ว Astaxanthin คือ สารต้านอนุมูลอิสระสีแดงที่สามารถพบได้ในธรรมชาติ ทั้งจากสาหร่าย ยีสต์ แบคทีเรีย และเนื้อปลาหรือสัตว์น้ำเปลือกแข็งที่มีสีแดง[3], [4] ปัจจุบันแหล่งที่มีความสำคัญที่สุดในการผลิตแอสตาแซนธิน คือ สาหร่าย Haematococcus Pluvialis[1] เนื่องจากมีความสามารถในการผลิตสารต้านอนุมูลอิสระออกมาเพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกทำร้ายจากอนุมูลอิสระได้ในปริมาณที่สูง อีกทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ได้รับการยอมรับว่ามีคุณสมบัติที่ปลอดภัยและทรงพลังมากกว่า Astaxanthin แบบสังเคราะห์[5], [6] โดยการเพาะเลี้ยงมักจะถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบซึ่งนิยมใช้เพื่อผลิต Astaxanthin คือ
การเพาะเลี้ยงในระบบเปิด
การเพาะเลี้ยงด้วยระบบเปิดเพื่อใช้เป็นแหล่งผลิต Astaxanthin คือ การเพาะเลี้ยงสาหร่ายในบ่อหรือรางเพาะเลี้ยงโดยใช้แสงจากธรรมชาติ มีข้อดีคือ สามารถผลิตในปริมาณมากด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าได้ แต่ข้อเสียคือการเลี้ยงรูปแบบนี้ควบคุมคุณภาพได้ยาก เนื่องจากควบคุมปริมาณแสง อุณภูมิ และปัจจัยการเจริญเติบโตที่เกี่ยวข้องได้ยาก รวมถึงมีความเสี่ยงในการปนเปื้อนสูงจากสิ่งแวดล้อมภายนอกสูง ซึ่งมีผลต่อคุณภาพของสารต้านอนุมูลอิสระที่ผลิตได้[5], [7]
การเพาะเลี้ยงในระบบปิด
การเพาะเลี้ยงด้วยระบบปิดเพื่อใช้เป็นแหล่งผลิตแอสตาแซนธินคือ การเพาะเลี้ยงสาหร่ายในสภาวะที่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมและปัจจัยต่างๆ ให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้สาหร่ายมีการเจริญเติบโตที่ดีกว่า อีกทั้งยังช่วยแก้ไขในเรื่องของการปนเปื้อน ส่งผลให้ได้สารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสูงกว่า อย่างไรก็ตามรูปแบบการผลิตดังกล่าวมีต้นทุนในการผลิตที่สูงกว่า[5], [7]
Astaxanthin ของ Astareal พิเศษอย่างไร
Astareal เป็นชื่อการค้าของแอสตาแซนธินซึ่งเป็นที่ได้รับความเชื่อถือเป็นอย่างมากในการนำมาใช้เป็นอาหารเสริมในปัจจุบัน ผลิตจากสาหร่าย Haematococcus Pluvialis โดยใช้วิธีการเพาะเลี้ยงในระบบปิดจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้ได้ Astaxanthin ที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัย และปราศจากการปนเปื้อน ที่สำคัญคือ Astareal เป็น Astaxanthin ที่มีงานวิจัยรองรับมากที่สุดถึงกว่า 70 ฉบับ เกี่ยวกับความปลอดภัยของแอสต้าแซนทีน สรรพคุณด้านต่างๆที่ได้รับการยอมรับ และปริมาณการรับประทานที่ได้ผล
สารต้านอนุมูลอิสระทรงพลัง แอสต้าแซนทีน สรรพคุณโดดเด่นที่มีงานวิจัยรองรับ
Astaxanthin คือ สารต้านอนุมูลอิสระที่นอกจากจะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่เหนือกว่าแล้ว ยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูและชะลอความเสื่อมของร่างกาย โดยเฉพาะในเรื่องผิวพรรณ อีกทั้งประโยชน์ของแอสต้าแซนทีนต่อสุขภาพร่างกายยังมีอีกหลายด้าน เช่น เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ปกป้องระบบประสาท ช่วยป้องกันหัวใจและหลอ,uดเลือด เป็นต้น [1], [2], [3]
การดูแลผิวพรรณกับ Astaxanthin ประโยชน์ที่เห็นผลจริงตามงานวิจัย
Astaxanthin สรรพคุณเด่นเรื่องลดเลื่อนริ้วรอยก่อนวัยอย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันคนส่วนใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลผิวพรรณมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของริ้วรอย Astaxanthin คือ สารต้านอนุมูลอิสระตัวหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากมีการศึกษาหลายฉบับรายงานตรงกันว่าการรับประทานแอสต้าแซนทีน สรรพคุณที่เห็นได้ชัดคือสามารถกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินได้อย่างทรงพลัง ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวและลดริ้วรอยได้อย่างมีนัยสำคัญ[6], [9]

ผิวทนแดดกับแอสต้าแซนทีน สรรพคุณที่หลายคนยังไม่รู้
แอสต้าแซนทีนไม่ใช่เพียงแค่สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในเรื่องการลดริ้วรอยเท่านั้น แต่ Astaxanthin คือ สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ผิวทนต่อแสงแดดมากขึ้นด้วย จากงานวิจัยพบว่าการรับประทาน Astaxanthin 4 mg ติดต่อกันเป็นเวลา 9 สัปดาห์ สามารถช่วยให้ผิวทนต่อรังสี UV ได้มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ผิวเรียบเนียน และมีเนื้อสัมผัสของผิวที่ดีขึ้น[10]

แอสตาแซนธิน สรรพคุณด้านการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
การรับประทาน Astaxanthin ประโยชน์อีกหนึ่งอย่างที่ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี คือ เรื่องความชุ่นชื้น จากงานวิจัยหลายฉบับพบว่า การรับประทาน Astaxanthin 4-12 mg อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 8 สัปดาห์ ช่วยลดการสูญเสียน้ำของผิว ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น[8], [10], [11], [12] นั่นแสดงให้เห็นว่า Astaxanthin คือ สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยทำให้ผิวดูสุขภาพดีได้อย่างรอบด้าน

แอสต้าแซนทีน สรรพคุณด้านอื่นที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย
สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดกับการทาน Astaxanthin สรรพคุณที่ไม่ควรมองข้าม
จากการศึกษามาอย่างยาวนานของ Astaxanthin ประโยชน์ด้านสุขภาพที่เป็นที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง คือ การช่วยดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด[2] จากงานวิจัยใหม่ ๆ พบว่า การรับประทาน Astaxanthin ในผู้ที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว ช่วยปรับปรุงการทำงานของหัวใจให้ดีขึ้นได้[13] นอกจากนี้ยังพบว่า แอสต้าแซนทีนยังมีสรรพคุณช่วยลดไขมันในเลือดได้อีกด้วย[14]
ปกป้องดวงตาด้วยแอสตาแซนธิน สรรพคุณเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจน
Astaxanthin ประโยชน์สำหรับผู้ที่มีการทำงานหน้าจอเป็นเวลานานจนทำให้เกิดสายตาล้า จากงานวิจัยพบว่า เมื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้รับประทาน Astaxanthin 4-5 mg ติดต่อกัน สามารถช่วยบรรเทาอาการตาล้าได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้แอสต้าแซนทีนยังมีสรรพคุณช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นอีกด้วย[15]
แอสต้าแซนทีน สรรพคุณช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
Astaxanthin คือ หนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่มีงานวิจัยเกี่ยวกับการทำงานของระบบประสาทและสมองอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่า การรับประทาน Astaxanthin 8-12 mg สามารถช่วยปรับปรุงการทำงานของสมอง และช่วยส่งเสริมความทรงจำได้[16], [17]
วิธีการทาน Astaxanthin ประโยชน์สูงสุดต้องทำยังไง
Astaxathin คือ สารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายได้ดีในไขมัน[1] ดังนั้นเพื่อให้การทาน Astaxanthin ให้ได้ประโยชน์สูงที่สุด ควรรับประทานพร้อมมื้ออาหารหรือหลังจากทานอาหารเช้าทันที เพื่อช่วยให้แอสต้าแซนทีนดูดซึมเข้าร่างกายได้ดียิ่งขึ้น และพร้อมปกป้องร่างกายก่อนต้องออกไปเผชิญกับมลภาวะหรือแสงแดดระหว่างวัน นอกจากนี้ควรรับประทาน Astaxanthin อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ และรับประทานในขนาดที่มีงานวิจัยแนะนำ เพื่อให้สรรพคุณแอสต้าแซนทีนเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน
การรับประทาน แอสตาแซนธิน ผลข้างเคียงมีอะไรที่ต้องกังวลมั้ย
การประเมินความปลอดภัยของการรับประทาน Astaxanthin ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น จากงานวิจัยหลายฉบับที่มีการทดสอบในอาสาสมัครสุขภาพดีพบว่า ยังไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง แม้มีการรับประทานต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์[18], [19] อย่างไรก็ตาม การรับประทานแอสตาแซนธิน ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ คือ ท้องอืด หรือปวดท้อง[20] แต่เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ยาก โดยรวมแล้ว การรับประทาน Astaxanthin ผลข้างเคียงถือว่าไม่รุนแรง และจัดว่ามีความปลอดภัยสำหรับคนทั่วไป แต่เพื่อความมั่นใจ ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนรับประทาน Astaxanthin โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่รับประทานยาเป็นประจำ หญิงตั้งครรภ์หรือคุณแม่ให้นมบุตร เพื่อให้สามารถทานสารต้านอนุมูลลอิสระชนิดนี้ได้อย่างปลอดภัย